รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือนพฤศจิกายน 2556
ข้อมูลเดือนพฤศจิกายน 2556 จากตารางภาวะเศรษฐกิจและการเงิน จะเห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคมีค่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะสินค้าในหมวดอาหารสำเร็จรูปยังมีการปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สินค้าจำพวกพืช ผัก ก็ยังมีราคาสูง อีกทั้งราคาน้ำมันก็มีความผันผวน ส่วนภาคการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้สิ้นปีทำให้มีคำสั่งซื้อสำหรับผลิตสินค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้การผลิตจึงปรับตัวได้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันดุลการค้ายังมีค่าเป็นบวก และมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามที่การนำเข้าที่มีการขยายตัวลดน้อยลง อย่างไรก็ตามภาวะการเงินยังทรงตัวไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยปริมาณเงินฝากและเงินให้สินเชื่อมีค่าเพิ่มขึ้น สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะธนาคารพาณิชย์ยังแข่งขันในเรื่องการระดมเงินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ประชาชนยังคงออมเงินอย่างต่อเนื่อง สำหรับการปล่อยสินเชื่อมีการปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากธนาคารเร่งการปล่อยสินเชื่อในช่วงปลายปีเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ตารางภาวะเศรษฐกิจและการเงิน
|
รายละเอียด |
สิงหาคม 56 |
กันยายน 56 |
ตุลาคม 56 |
พฤศจิกายน 56 |
| ดัชนีราคาผู้บริโภค |
105.4 |
105.6 |
105.8 |
105.9 |
| ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม |
175.46 |
171.19 |
170.91 |
174.21 |
| อัตราการใช้กำลังการผลิต |
63.55 |
63.86 |
62.64 |
69.43 |
| ดุลการค้า |
2,214.20 |
2,561.17 |
336.84 |
1,514.28 |
| ดุลบัญชีเดินสะพัด |
1,284.74 |
-534.38 |
375.70 |
2,294.13 |
| เงินฝาก |
10,789.28 |
10,870.45 |
10,954.17 |
n.a. |
| เงินให้สินเชื่อ |
12,003.48 |
12,004.29 |
12,046.83 |
n.a. |
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
หมายเหตุ: ดัชนีราคาผู้บริโภค มีปีฐานคือ 2545 เงินฝาก/เงินให้สินเชื่อ มีหน่วยเป็น พันล้านบาท
อัตราการใช้กำลังการผลิต มีหน่วยเป็น ร้อยละ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม มีปีฐานคือ 2543
ดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัด มีหน่วยเป็น ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
ภาวะอสังหาริมทรัพย์ เดือนพฤศจิกายน 2556
• ด้านอุปทาน
- ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เปรียบเทียบ ณ พ.ย. 55 กับ 56 มีรายละเอียดดังนี้
|
ปี |
จำนวน |
การเติบโต |
|
ณ พ.ย. 55 |
111,388 |
NA |
|
ณ พ.ย. 56 |
117,900 |
5.85% |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
- ประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจดทะเบียน ณ พ.ย. 56 เรียงตามลำดับมีรายละเอียดดังนี้
|
ประเภท |
จำนวน |
สัดส่วน |
|
อาคารชุด |
64,480 |
54.69 |
|
บ้านเดี่ยว |
27,608 |
23.42 |
|
ทาวน์เฮ้าส์ |
14,681 |
12.45 |
|
อาคารพาณิชย์ |
9,037 |
7.66 |
|
บ้านแฝด |
2,094 |
1.78 |
|
รวม |
117,900 |
100.00 |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
• ด้านอุปสงค์
- การโอนกรรมสิทธิ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เปรียบเทียบ ณ พ.ย. 55 กับ 56 มีรายละเอียดดังนี้
|
ปี |
จำนวน |
การเติบโต |
|
ณ ก.ย. 55 |
140,425 |
NA |
|
ณ ก.ย. 56 |
155,302 |
10.59% |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
- ประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ ณ พ.ย. 56 เรียงตามลำดับมีรายละเอียดดังนี้
|
ประเภท |
จำนวน |
สัดส่วน |
|
อาคารชุด |
64,617 |
41.61 |
|
ทาวน์เฮ้าส์ |
46,297 |
29.81 |
|
บ้านเดี่ยว |
27,653 |
17.80 |
|
อาคารพาณิชย์ |
12,219 |
7.87 |
|
บ้านแฝด |
4,516 |
2.91 |
|
รวม |
155,302 |
100.00 |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
• อัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปลอยตัวเฉลี่ยของ 6 ธนาคารใหญ่ มีรายละเอียดดังนี้
|
ปี 56 |
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 6 ธนาคาร |
อัตราดอกเบี้ย นโยบาย ธปท. |
|
มกราคม-กุมภาพันธ์ |
7.23 |
2.75 |
|
มีนาคม-เมษายน |
7.14 |
2.75 |
|
พฤษภาคม-สิงหาคม |
7.14 |
2.50 |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
หมายเหตุ: 6 ธนาคาร ประกอบ ธ.อาคารสงเคราะห์, ธ.กสิกรไทย, ธ.กรุงเทพ,
ธ.กรุงศรีอยุธยา, ธ.กรุงไทย และ ธ.ไทยพาณิชย์
สรุปภาพภาวะอสังหาริมทรัพย์เดือนพฤศจิกายน 2556
ภาพรวมของอุปทานมีการปรับตัวขึ้น 5.85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการขยายตัวมาจากการเปิดตัวโครงการใหม่โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นหลังจากที่ผู้ประกอบการเริ่มหันมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทนี้มากขึ้น จึงทำให้มีจำนวนที่สูงกว่าในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ทางด้านอุปสงค์ยังมีการเติบโตได้ 10.59% โดยยังมีอาคารชุดเป็นตัวนำในเรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันจำนวนอุปทานที่เริ่มสร้างเสร็จมีจำนวนมากขึ้นก็ส่งผลทำให้มีการโอนเพิ่มขึ้นตามมาด้วย อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.13% ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% จึงทำให้อัตราดอกเบี้ยมีค่าอยู่ที่ 2.25%
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2556 และแนวโน้มปี 2557
• ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจในปี 2556
ในปี 2556 เศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมมีการเติบโตที่ลดลง โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัวได้ 2.8% ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปี 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวลดลง โดยการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามความต้องการซื้อสินค้าคงทนโดยเฉพาะยานยนต์ที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้การลงทุนภาครัฐที่ชะลอออกไปยังส่งผลให้กิจกรรมการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลงตามมาด้วย เช่นเดียวกับแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่มีความล่าช้า เนื่องจากโครงการบางส่วนอยู่ระหว่างการจัดทำประชาพิจารณ์ก่อนเริ่มดำเนินโครงการตามคำสั่งของศาลปกครอง
โดยในปี 2556 ประมาณการว่าจะมีการเกินดุลการค้าอยู่ที่ 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดจะขาดดุลอยู่ที่ 6.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา จากที่เกินดุล 6.0 และขาดดุล 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ในปี 2555 อุปสงค์ภายในประเทศมีการปรับตัวลดลง เพราะการบริโภคจากภาคเอกชนมีการขยายตัวลดลงมาก เนื่องจากมาตรการต่างๆ ที่รัฐออกนโยบายมาได้หมดลงไปแล้ว ในขณะที่การบริโภคและการลงทุนของภาครัฐก็มีการขยายตัวลดลง เนื่องจากนโยบายของภาครัฐต้องมีการชะลอออกไปก่อนภายหลังจากที่รัฐบาลได้มีการประกาศยุบสภาไป ส่วนอุปสงค์ภายนอกประเทศหรือการส่งออกมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่การนำเข้าก็มีการขยายตัวลดลงตามไปด้วย และยังมีผลทำให้มีการเกิน ดุลการค้าอยู่อย่างต่อเนื่องจากปี 2555 ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของประเทศไทยมีการปรับตัวลดลงจากปี 2555 โดยคาดการณ์ว่าจะมีค่าเท่ากับร้อยละ 2.2 ในปี 2556 ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อมีค่าลดลงมานั้น เนื่องมาจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่ลดลงตามการชะลอตัวของอุปสงค์ภาคเอกชนและแนวโน้มราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ลดลงอันเป็นผลมาจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ชะลอลง รวมทั้งผลจากแนวทางการดูแลราคาน้ำมันขายปลีกของภาครัฐ
จากปัจจัยต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักทั้งจากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน จึงส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2556 มีแนวโน้มการขยายตัวที่ลดลงไปจากเดิมเมื่อเทียบกับปี 2555 ที่ผ่านมา
• แนวโน้มของเศรษฐกิจในปี 2557
เศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2557 คาดว่าน่าจะมีอัตราการเติบโตที่ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ผ่านมา โดยได้มีการประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจอยู่ในระดับ 3.5-4.5% โดยมีปัจจัยหลักจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของการส่งออกสินค้าและบริการ ทั้งนี้การส่งออกสินค้าและบริการมีแนวโน้มเติบโตในอัตราเร่งขึ้นจากปีก่อนมาขยายตัวที่ร้อยละ 7.0 เนื่องจากคาดว่าการส่งออกสินค้าจะได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้นโดยเป็นผลมาจากนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ แม้ว่าเศรษฐกิจของจีนจะยังอยู่ในช่วงของการปรับตัวต่อเสถียรภาพในระบบการเงินก็ตาม ขณะที่การส่งออกด้านบริการคาดว่าจะขยายตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.8 ตามสถานการณ์การจ้างงานที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนได้จากอัตราการว่างงานที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับการเงินโดยรวมที่ผ่อนคลายจากอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะเอื้อต่อการใช้จ่ายของภาคเอกชน
อย่างไรก็ตามในปี 2557 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.4 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า อันเป็นผลจากการเร่งขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มทรงตัวจากอุปสงค์น้ำมันดิบที่คาดว่าจะเริ่มปรับเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับอุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันตามการผลิตนอกกลุ่มโอเปค
โดยสรุปจะเห็นได้ว่ายังมีปัจจัยต่างๆ ทั้งจากภายนอกและในประเทศที่อาจจะเกิดขึ้น ย่อมจะส่งผลต่อการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจในปี 2557 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องการเมืองที่รัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐให้เกิดความล่าช้า อีกทั้งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ต้องมีการชะลอออกไปก่อน ทั้งนี้หากปัญหาการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอนและถ้าเกิดการยืดเยื้อขึ้นก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามคาดว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปี 2557 น่าจะยังขยายตัวได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา และจะทำให้การเติบโตปรับตัวเพิ่มขึ้นมาได้
ตารางเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญ
| รายละเอียด |
ข้อมูลเบื้องต้น
2555 |
ข้อมูลประมาณการ
2556 |
ข้อมูลประมาณการ
2557 |
| 1.อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(%) |
6.5 |
2.8 |
3.5-4.5 |
|
2.ด้านการลงทุน |
|
|
|
| 3.ด้านการบริโภค 3.1 ภาคเอกชน (%) 3.2 ภาครัฐ (%) |
|
|
|
| 4.อัตราเงินเฟ้อ |
3.0 |
2.2 |
1.9-2.9 |
|
5.การค้าระหว่าประเทศ |
|
|
5.0 8.9 4.4 1.0 |
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
ภาพรวมภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2556 และแนวโน้มปี 2557
• ภาพรวมภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2556
ในปี 2556 ช่วงครึ่งปีแรกภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการเติบโตได้สูงขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังมีปัจจัยลบเข้ามาอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มชะลอตัวลง ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน และปัญหาการเมืองที่เริ่มมีความรุนแรงและคาดว่าน่าจะยืดเยื้อ ล้วนส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ค่อยสดใสมากเท่าไรนัก
ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2556 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีทิศทางที่ขยายตัวได้ เห็นได้จากที่อยู่อาศัยจดทะเบียนในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนมีจำนวนประมาณ 117,900 หน่วย ในขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555 มีที่อยู่อาศัยจดทะเบียน 111,388 หน่วย หรือมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 โดยประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจดทะเบียนมากที่สุดจะเป็นที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่มีจำนวน 6.4 หมื่นหน่วย หรือคิดเป็นร้อยละ 55 รองลงมาจะเป็นบ้านเดี่ยวที่มี 2.8 หมื่นหน่วย หรือร้อยละ 23 ส่วนทาวน์เฮ้าส์จะอยู่ที่ 1.5 หมื่นหน่วย คิดเป็น ร้อยละ 12 สาเหตุที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมมีการจดทะเบียนสูง เนื่องมาจากโครงข่ายการคมนาคมของรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดินที่ทำให้การเดินทางมีความสะดวกมากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมที่นิยมที่อยู่อาศัยแนวราบก็หันมาอยู่ที่อยู่อาศัยประเภทแนวสูงมากขึ้น จึงทำให้ประมาณการว่าจะมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 131,252 หน่วย ซึ่งมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มีจำนวนอยู่ที่ 125,002 หน่วย
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2556 การทำตลาดยังเป็นปีที่มีความยากลำบากอยู่ต่อไป เนื่องจากปัจจัยลบในช่วงครึ่งปีหลังที่ผู้บริโภคยังมีความไม่มั่นใจ ส่งผลทำให้ผู้บริโภคมีการชะลอการตัดสินใจซื้อและส่งผลกระทบกับตลาดโดยรวม รวมทั้งการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างจะรุนแรง จึงมีผลทำให้ในปี 2556 นี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2555 โดยมีสาเหตุหลักๆ มาจากปัจจัยดังที่ได้กล่าวไปแล้วนั่นเอง
• แนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2557
แนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 คาดการณ์ผู้ประกอบการจะหันมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากขึ้น หลังจากที่ได้มีการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมไปเป็นจำนวนมากในปี 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งการลดการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมยังมีสาเหตุมาจากที่ดินที่จะนำมาพัฒนาโครงการมีราคาขึ้นไปสูงมากจนไม่สามารถที่จะนำมาพัฒนาคอนโดมิเนียมออกมาขายในราคาที่ตลาดรับได้ อีกทั้งปัญหาการขาดแคลนผู้รับเหมาที่จะสร้างโครงการ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่สำคัญที่ส่งผลทำให้ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงมา ในขณะที่การเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 น่าจะมีผลมาจากความผ่อนคลายของตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือนและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่มีทิศทางขยายตัวมากขึ้นจากปี 2556 หลังจากที่หนี้ภาคครัวเรือนปรับตัวสูงขึ้นไปถึง 80% ของ จีดีพี จนทำให้สถาบันการเงินต่างๆ มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ
ในปี 2557 นี้ การแข่งขันของผู้ประกอบการยังมีอยู่สูง ในขณะที่ภาพรวมราคาสินค้าในปี 2557 น่าจะมีการขยับราคาขึ้นไปตามภาวะต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่มีการปรับตัวสูงขึ้น แต่จากภาวะในตลาดที่ยังมีการแข่งขันกันอยู่ จึงคาดว่าผู้ประกอบการน่าจะไม่ปรับราคาสูงมากนัก และยังคาดการณ์ว่าผู้ประกอบการอาจจะใช้กลยุทธ์ทางด้านราคา เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดหรือช่วงชิงจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ โดยยังนำวิธีการลดขนาดของบ้านหรือคุณภาพของวัสดุก่อสร้างบางอย่างมาใช้ เพื่อรักษายอดรายได้ให้มีการทรงตัว ซึ่งจะมีผลทำให้ผลตอบแทนหรือกำไรของผู้ประกอบการมีการเติบโตต่อไป อย่างไรก็ตามปี 2557 ผู้ประกอบการยังต้องติดตามเรื่องของการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายและคุณภาพเป็นสำคัญ
จากภาวะการแข่งขันที่ยังมีความรุนแรง ผู้ประกอบการต้องมีความเป็นมืออาชีพ พร้อมทั้งต้องมีการสร้างบ้านให้มีคุณภาพและบริการที่ดีด้วย เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการ และในปี 2557 ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงการบริหารต้นทุนและการบริหารสภาพคล่องเป็นสำคัญ เพราะเป็นส่วนที่จะสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อไป และคาดการณ์ว่าในปี 2557 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีสภาพของตลาดโดยรวมที่เติบโตจากปี 2556 ตามเหตุผลต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว
______________________
กลุ่มข้อมูลและวางแผนสื่อสารองค์กร
ฝ่ายสื่อสารองค์กร