รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือนพฤศจิกายน 2557
ข้อมูลเดือนพฤศจิกายน 2557 จากตารางภาวะเศรษฐกิจและการเงิน จะเห็นว่าดัชนีราคาผู้บริโภคมีค่าลดลง เพราะราคาน้ำมันมีทิศทางที่ลดลงต่อเนื่องจนส่งผลทำให้ราคาสินค้ามีการปรับตัวลดลงไป ส่วนภาคการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้เทศกาลทำให้มีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาค่อนข้างมาก ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการได้ทำการเร่งผลิตสินค้ามากขึ้น เพื่อให้ทันกับความต้องการที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกันดุลการค้าปรับตัวลดลงแต่ยังมีทิศทางที่เป็นบวกอยู่ เนื่องจากการนำเข้ามีการปรับตัวลดลงไป ทำให้ยังไม่น่าเป็นห่วงมากเท่าไรนัก อย่างไรก็ตามภาวะการเงินยังทรงตัวไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง โดยปริมาณเงินฝากและเงินให้สินเชื่อมีค่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ยังมีการออกแคมเปญทางการเงินใหม่ๆ ส่งผลทำให้ประชาชนนำเงินมาฝากเพิ่ม ในขณะที่การปล่อยสินเชื่อมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากใกล้สิ้นปีทำให้ธนาคารต้องเร่งปล่อยสินเชื่อออกมาเพื่อให้ได้ตามเป้าที่วางไว้
ตารางภาวะเศรษฐกิจและการเงิน
|
รายละเอียด |
สิงหาคม 57 |
กันยายน 57 |
ตุลาคม 57 |
พฤศจิกายน 57 |
| ดัชนีราคาผู้บริโภค |
107.6 |
107.4 |
107.3 |
107.2 |
| ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม |
172.2 |
164.0 |
167.1 |
169.0 |
| อัตราการใช้กำลังการผลิต |
60.73 |
60.39 |
60.05 |
60.17 |
| ดุลการค้า |
2,198.94 |
1,130.71 |
2,082.00 |
1,913.62 |
| ดุลบัญชีเดินสะพัด |
554.55 |
-539.81 |
2,628.38 |
1,664.01 |
| เงินฝาก |
11,355.80 |
11,431.41 |
11,585.95 |
n.a. |
| เงินให้สินเชื่อ |
12,668.68 |
12,579.13 |
12,880.89 |
n.a. |
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
หมายเหตุ: ดัชนีราคาผู้บริโภค มีปีฐานคือ 2545 เงินฝาก/เงินให้สินเชื่อ มีหน่วยเป็น พันล้านบาท
อัตราการใช้กำลังการผลิต มีหน่วยเป็น ร้อยละ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม มีปีฐานคือ 2543
ดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัด มีหน่วยเป็น ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
ภาวะอสังหาริมทรัพย์ เดือนพฤศจิกายน 2557
• ด้านอุปทาน
- ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เปรียบเทียบ ณ พ.ย. 56 กับ 57 มีรายละเอียดดังนี้
|
ปี |
จำนวน(ยูนิต) |
การเติบโต(%) |
|
ณ พ.ย. 56 |
122,777 |
NA |
|
ณ พ.ย. 57 |
116,834 |
-4.84% |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
- ประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจดทะเบียน ณ พ.ย. 57 เรียงตามลำดับมีรายละเอียดดังนี้
|
ประเภท |
จำนวน(ยูนิต) |
สัดส่วน(%) |
|
อาคารชุด |
64,317 |
55.05 |
|
บ้านเดี่ยว |
30,891 |
26.44 |
|
ทาวน์เฮ้าส์ |
12,463 |
10.67 |
|
อาคารพาณิชย์ |
6,418 |
5.49 |
|
บ้านแฝด |
2,745 |
2.35 |
|
รวม |
116,834 |
100.00 |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
• ด้านอุปสงค์
- การโอนกรรมสิทธิ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เปรียบเทียบ ณ พ.ย. 56 กับ 57 มีรายละเอียดดังนี้
|
ปี |
จำนวน(ยูนิต) |
การเติบโต(%) |
|
ณ ก.ย. 56 |
162,106 |
NA |
|
ณ ก.ย. 57 |
151,555 |
-6.51% |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
- ประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ ณ พ.ย. 57 เรียงตามลำดับมีรายละเอียดดังนี้
|
ประเภท |
จำนวน(ยูนิต) |
สัดส่วน(%) |
|
อาคารชุด |
60,034 |
39.61 |
|
ทาวน์เฮ้าส์ |
48,422 |
31.95 |
|
บ้านเดี่ยว |
27,061 |
17.86 |
|
อาคารพาณิชย์ |
10,534 |
6.95 |
|
บ้านแฝด |
5,504 |
3.63 |
|
รวม |
151,555 |
100.00 |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
• อัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปลอยตัวเฉลี่ยของ 6 ธนาคารใหญ่ มีรายละเอียดดังนี้
|
ปี 56 |
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 6 ธนาคาร |
อัตราดอกเบี้ย นโยบาย ธปท. |
|
มกราคม |
7.03 |
2.25 |
|
กุมภาพันธ์ |
7.12 |
2.25 |
|
มีนาคม-พฤษภาคม |
7.03 |
2.00 |
|
มิถุนายน |
7.09 |
2.00 |
|
กรกฎาคม-พฤศจิกายน |
7.05 | 2.00 |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
หมายเหตุ: 6 ธนาคาร ประกอบ ธ.อาคารสงเคราะห์, ธ.กสิกรไทย, ธ.กรุงเทพ,
ธ.กรุงศรีอยุธยา, ธ.กรุงไทย และ ธ.ไทยพาณิชย์
สรุปภาพภาวะอสังหาริมทรัพย์เดือนพฤศจิกายน 2557
ภาพรวมของอุปทานมีการปรับลดลง 4.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจยังมีการฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ เนื่องมาจากมาตรการที่ภาครัฐได้กระตุ้นออกมายังไม่เห็นผลอย่างเต็มที่ จึงทำให้ผู้ประกอบการไม่ได้เร่งพัฒนาโครงการออกมาเท่าที่ควร ในขณะที่ทางด้านอุปสงค์หดตัวลง 6.51% เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังมีทิศทางที่สูง ส่งผลให้ผู้บริโภคยังมีการชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปก่อน ทั้งนี้ที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดยังมียอดการโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด รองลงมาคือทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว ส่วนดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยยังทรงตัวอยู่ที่ 7.05% โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังมีค่าเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.00%
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2557 และแนวโน้มปี 2558
• ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจในปี 2557
ในปี 2557 เศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมมีการเติบโตที่ลดลง โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัวได้ 1.0% ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจาก ในช่วงครึ่งปีแรกที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางด้านการเมืองจนทำให้ภาวะเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวลงไปเป็นอันมาก อย่างไรก็ตามหลังจากที่สถานการณ์ทางการเมืองมีทิศทางที่ชัดเจน ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี จึงทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังสามารถกลับฟื้นตัวได้มากขึ้น ทั้งจากนโยบายภาครัฐที่เอื้อต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน อาทิ การเร่งชำระหนี้ให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น
โดยในปี 2557 ประมาณการว่าจะมีการเกินดุลการค้าอยู่ที่ 19.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลอยู่ที่ 9.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา จากที่เกินดุล 6.7 และขาดดุล 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ในปี 2556 อุปสงค์ภายในประเทศมีการปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย เพราะมาตรการภาครัฐที่ออกมามีส่วนช่วยทำให้ประชาชนเกิดการจับจ่ายใช้สอยได้พอสมควร ในขณะที่การบริโภคและการลงทุนของภาครัฐก็มีการขยายตัวลดลง เนื่องจากในช่วงต้นปีเกิดปัญหาทางการเมืองทำให้ไม่สามารถที่จะใช้งบประมาณได้ตามแผนงานที่วางไว้ อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังที่ปัญหาทางการเมืองได้คลี่คลายไปแล้ว ปัจจัยดังกล่าวถือได้ว่ามีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนอุปสงค์ภายนอกประเทศหรือการส่งออกคาดว่าจะไม่มีอัตราการขยายตัว ในขณะที่การนำเข้าก็มีการหดตัวลงตามอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัวลงไป และส่งผลทำให้มีการเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่องจากปี 2556 ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของประเทศไทยมีการปรับตัวลดลงจากปี 2556 โดยคาดการณ์ว่าจะมีค่าเท่ากับร้อยละ 2.1 ในปี 2557 ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อมีค่าลดลงมานั้น เนื่องมาจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลงอันเป็นผลมาจากอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกที่ชะลอลงและการขยายตัวของอุปทานน้ำมันในตลาดโลก ประกอบกับผลจากแนวทางการดูแลราคาพลังงานของภาครัฐ
จากปัจจัยต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักทั้งจากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน จึงส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2557 มีแนวโน้มการขยายตัวที่ลดลงไปจากเดิมเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ผ่านมา
• แนวโน้มของเศรษฐกิจในปี 2558
เศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2558 คาดว่าน่าจะมีอัตราการเติบโตที่ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ผ่านมา โดยได้มีการประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจอยู่ในระดับ 3.6-4.6% โดยมีปัจจัยหลักจากอุปสงค์ภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวโดยเฉพาะจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านคมนาคมขนส่ง และอุปสงค์จากต่างประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นภายหลังสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศได้คลี่คลายลงไป นอกจากนี้อุปสงค์ภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเช่นกันตามแนวโน้มการจ้างงานและรายได้นอกภาคเกษตรที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม โดยเฉพาะการผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจะเอื้อต่อการจับจ่ายใช้สอยของภาคเอกชน อย่างไรก็ตามรายได้เกษตรกรที่อยู่ในระดับต่ำตามราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกยังคงเป็นข้อจำกัดต่อการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนให้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกันกับการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ชัดเจนขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนสำคัญ อาทิ แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภาพรวมและแนวโน้มการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า รวมทั้งความจำเป็นในการลงทุนปรับโครงสร้างการผลิตเพื่อรองรับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เป็นต้น ขณะที่การส่งออกน่าจะมีการเติบโตที่ดีขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกฟื้นตัวขึ้นตามการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าของไทยโดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตามในปี 2558 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีทิศทางทรงตัว ประกอบกับแรงกดดันระดับราคาจากทางด้านอุปสงค์ยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงไม่ส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อไปมากเท่าไรนัก
โดยสรุปจะเห็นได้ว่ายังมีปัจจัยต่างๆ ทั้งจากภายนอกและในประเทศที่อาจจะเกิดขึ้น ย่อมจะส่งผลต่อการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจในปี 2558 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องการเมืองที่ยังต้องมีการติดตามว่าจะเป็นไปตามแผนงานของรัฐบาลที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งหากไม่เป็นไปตามแผนงานก็อาจจะส่งผลให้การเมืองเกิดความไม่แน่นอนและถ้าเกิดการยืดเยื้อขึ้นก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามคาดว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปี 2558 น่าจะยังขยายตัวได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา และจะทำให้การเติบโตปรับตัวเพิ่มขึ้นมาได้
ตารางเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญ
| รายละเอียด |
ข้อมูลเบื้องต้น
2556 |
ข้อมูลประมาณการ
2557 |
ข้อมูลประมาณการ
2558 |
| 1.อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(%) |
2.9 |
1.0 |
3.6-4.6 |
|
2.ด้านการลงทุน |
|
|
|
| 3.ด้านการบริโภค 3.1 ภาคเอกชน (%) 3.2 ภาครัฐ (%) |
|
|
|
| 4.อัตราเงินเฟ้อ |
2.2 |
2.1 |
2.2 |
|
5.การค้าระหว่าประเทศ |
-0.5 6.7 -2.5 -0.7 |
-2.9 19.4 9.0 2.2 |
9.6 7.5 0.3 0.1 |
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
ภาพรวมภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2557 และแนวโน้มปี 2558
• ภาพรวมภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2557
ในปี 2557 ช่วงครึ่งปีแรกภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวลง เนื่องมาจากปัญหาการเมืองที่มีความรุนแรง ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ ได้ชะลอการพัฒนาโครงการออกไปก่อน ล้วนส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ค่อยสดใสมากเท่าไรนัก อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่การเมืองเริ่มมีความชัดเจนและคลี่คลายลง ทำให้ในช่วงครึ่งปีหลังภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยผู้ประกอบการเริ่มมีการพัฒนาโครงการออกมาหลังจากที่ได้มีการชะลอตัวลงไปในช่วงก่อนหน้านั้น
ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2557 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีทิศทางที่หดตัวลง เห็นได้จากที่อยู่อาศัยจดทะเบียนในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนมีจำนวนประมาณ 116,834 หน่วย ในขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2556 มีที่อยู่อาศัยจดทะเบียน 122,777 หน่วย หรือมีอัตราลดลงร้อยละ 5 โดยประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจดทะเบียนมากที่สุดจะเป็นที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่มีจำนวน 6.4 หมื่นหน่วย หรือคิดเป็นร้อยละ 55 รองลงมาจะเป็นบ้านเดี่ยวที่มี 3.1 หมื่นหน่วย หรือร้อยละ 26 ส่วนทาวน์เฮ้าส์จะอยู่ที่ 1.2 หมื่นหน่วย คิดเป็น ร้อยละ 11 สาเหตุที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมมีการจดทะเบียนสูง เนื่องมาจากโครงข่ายการคมนาคมของรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดินที่ทำให้การเดินทางมีความสะดวกมากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมที่นิยมที่อยู่อาศัยแนวราบก็หันมาอยู่ที่อยู่อาศัยประเภทแนวสูงมากขึ้น จึงทำให้ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมยังเป็นที่นิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 การทำตลาดยังเป็นปีที่มีความยากลำบากอยู่ต่อไป เนื่องจากปัจจัยลบเรื่องของการเมืองแล้ว ยังรวมไปถึงภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ส่งผลต่อรายได้ของผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคมีการชะลอการตัดสินใจซื้อและส่งผลกระทบกับตลาดโดยรวม อีกทั้งการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างจะรุนแรง จึงมีผลทำให้ในปี 2557 นี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการหดตัวลงไปเมื่อเทียบกับปี 2556 โดยมีสาเหตุหลักๆ มาจากปัจจัยดังที่ได้กล่าวไปแล้วนั่นเอง
• แนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2558
แนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 คาดการณ์ว่าผู้ประกอบการจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรอบนอกเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง จากการขยายแนวรถไฟฟ้าและโครงข่ายคมนาคม ซึ่งจะทำให้พื้นที่รอบนอกหรือชานเมืองสามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองหรือพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในหรือชั้นกลางที่ปัจจุบันราคาที่อยู่อาศัยได้ปรับตัวสูงขึ้นไปค่อนข้างมากตามต้นทุน โดยเฉพาะต้นทุนที่ดินที่ราคาได้ปรับตัวขึ้นไปสูงมากแล้ว ขณะที่ที่ดินที่อยู่บริเวณ รอบนอกหรือชานเมืองยังมีราคาไม่แพงมากนัก อีกทั้งยังมีที่ดินเปล่ามากพอที่จะพัฒนาเพิ่มมูลค่าตามศักยภาพของทำเล ในขณะที่การเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 น่าจะมีผลมาจากการเมืองที่เริ่มนิ่ง ทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมีการเติบโตได้ดีขึ้น ประกอบกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ทำให้มีเงินหมุนเวียนสร้างสภาพคล่องให้ระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา
ในปี 2558 นี้ การแข่งขันของผู้ประกอบการยังมีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ภาพรวมราคาสินค้าในปี 2558 น่าจะมีการขยับราคาขึ้นไปตามภาวะต้นทุนของราคาที่ดิน ค่าวัสดุก่อสร้าง และค่าแรงที่มีการปรับตัวสูงขึ้น แต่จากภาวะในตลาดที่ยังมีการแข่งขันกันอยู่ จึงคาดว่าผู้ประกอบการน่าจะไม่ปรับราคาสูงมากนัก และยังคาดการณ์ว่าผู้ประกอบการอาจจะใช้กลยุทธ์ทางด้านราคา เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดหรือช่วงชิงจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ โดยยังนำวิธีการลดขนาดของบ้านหรือคุณภาพของวัสดุก่อสร้างบางอย่างมาใช้ เพื่อรักษายอดรายได้ให้มีการเติบโตต่อไป อย่างไรก็ตามปี 2558 ผู้ประกอบการยังต้องติดตามเรื่องของการรักษาสภาพคล่องเป็นสำคัญ เพราะจะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ในกรณีที่ความผันผวนทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นมา
จากภาวะการแข่งขันที่ยังมีความรุนแรง ผู้ประกอบการต้องมีความเป็นมืออาชีพ พร้อมทั้งต้องมีการสร้างบ้านให้มีคุณภาพและบริการที่ดีด้วย เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการ และคาดการณ์ว่าในปี 2558 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีสภาพของตลาดโดยรวมที่เติบโตจากปี 2557 ตามเหตุผลต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว
กลุ่มข้อมูลและวางแผนสื่อสารองค์กร
ฝ่ายสื่อสารองค์กร