หน้าหลัก > บทความการเงิน > กลยุทธ์ในการลงทุน LTF/RMF ให้มีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์ในการลงทุน LTF/RMF ให้มีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์ในการลงทุน LTF/RMF ให้มีประสิทธิภาพ*

 

          ในครั้งนี้จะมานำเสนอกลยุทธ์ในการลงทุนในกองทุนที่นักลงทุนหลายๆ คนให้ความสนใจ โดยเฉพาะในช่วงปลายๆ ปี ซึ่งก็คือกองทุน LTF/RMF โดยจะเน้นไปที่กลยุทธ์ในการลงทุนกับกองทุน LTF/RMF ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

          วิธีที่ 1 ซื้อแบบสม่ำเสมอ (DCA หรือ Dollar Cost Average) โดยปกติจะซื้อกองทุนแบบสม่ำเสมอทุกๆ เดือนไป แต่เนื่องจากว่าใกล้ๆ สิ้นปีแบบนี้ เวลาเหลืออีกเพียงไม่กี่เดือน หากลงทุนแบบรายเดือนเหมือนเดิม เชื่อว่าจะได้ราคาหน่วยลงทุนที่ค่อนข้างจะสูง ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงอาจจะทำการ DCA ทุกๆ สัปดาห์เพื่อกระจายความเสี่ยงและถัวเฉลี่ยราคาหน่วยลงทุน

 

          วิธีที่ 2 DCA + Market Timing ง่ายๆ ก็แค่แบ่งเงินเป็น 2 ก้อน โดยก้อนแรกจะทำการซื้อเฉลี่ยทุกสัปดาห์ หรือว่า DCA แบบปกติ เพื่อให้ได้ราคาเฉลี่ยที่ไม่แพงมากนัก จากนั้นเงินอีกก้อนจะเก็บเอาไว้ซื้อตามจังหวะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง เพื่อให้ได้หน่วยลงทุนที่ราคาถูกลงไปอีก ซึ่งบางคนอาจจะชอบวิธีนี้เพราะว่าได้เห็นแนวโน้มของราคา รวมทั้งได้ความมีวินัยไปพร้อมๆ กัน แต่ว่าวิธีนี้ก็มีข้อจำกัด ซึ่งอาจจะทำให้คำนวณการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีผิดพลาดได้ เนื่องจากหากเป็นปีที่หุ้นดี ก็อาจจะไม่ได้ลงทุนเพิ่มเติม และซื้อกองทุนไม่ถึงสิทธิที่จะลดหย่อน

 

          วิธีที่ 3 หากนักลงทุนลืมซื้อ LTF/RMF มาตลอดทั้งปี ซื้อกองทุนในช่วงปลายๆ ปีที่มีแนวโน้มราคาหุ้นสูงขึ้น แทนที่นักลงทุนจะซื้อกองทุน LTF/RMF แบบหุ้นล้วนๆ ก็อาจจะพิจารณากองทุนที่มีสัดส่วนหุ้นไม่สูงมากนักเพื่อลดความเสี่ยงของการลงทุนลง เช่น ถือกองทุน LTF ที่มีหุ้น 70% ตราสารหนี้ 30% แบบนี้ หรือว่าบางท่านที่ชอบซื้อ RMF ก็อาจจะซื้อกองทุน RMF แบบตราสารหนี้ไปก่อน หากมั่นใจแล้วว่าตลาดหุ้นไม่ได้แย่ หรือว่าไม่ได้เกิดวิกฤตตามมา ก็ค่อยๆ ทยอยย้ายกองทุน RMF ตราสารหนี้ มาลงทุนในกองทุนหุ้น RMF

 

          วิธีที่ 4 หากนักลงทุนไม่อยากคิดมาก อยากลงทุนแบบเงินก้อน โดยที่ไม่ต้องยุ่งกับการลงทุนมากนัก และไม่อยากจับจังหวะเอง สิ่งที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญก็คือ การจัดพอร์ตการลงทุน ซึ่งการจัดพอร์ตจะช่วยลดความผันผวนจากการลงทุนไปได้มากทีเดียว และยังได้ผลตอบแทนที่ดีได้อีกด้วย โดยสามารถที่จะเอากองทุน LTF/RMF มาจัดพอร์ตพร้อมๆ กันก็ได้ เช่น เลือกกองทุน RMF ตราสารหนี้เพื่อให้ความเสี่ยงไม่สูงจนเกินไป แต่ในส่วนสัดส่วนการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงอาจจะใช้ LTF เป็นตัวลงทุน เนื่องจาก LTF จะมีหุ้นอยู่ในกองทุนเป็นสัดส่วนที่สูงอยู่แล้ว

 

          โดยสรุปจะเห็นได้ว่าวิธีดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้น จะทำให้การลงทุนใน LTF/RMF มีประสิทธิภาพมากขึ้น อันจะแนวทางที่จะช่วยในเรื่องของการตัดสินใจเพื่อให้มีความเหมาะสมกับระยะเวลาและความเสี่ยงที่จะได้รับจากการลงทุนใน LTF/RMF เพื่อนำไปสู่การได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีที่สุดนั่นเอง

 


_______________
* แหล่งที่มาของข้อมูล : คอลัมน์การบริหารเงิน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 

 

กลุ่มข้อมูลและวางแผนสื่อสารองค์กร
ฝ่ายสื่อสารองค์กร

บทความการเงิน

วันที่ 21 ธันวาคม 2561

908 Views

BAM Mobile Application

ค้นหาทรัพย์ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส

บริการฝากขาย
อสังหาฯ
ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย