หน้าหลัก > บทความการเงิน > การจัดพอร์ตลงทุนสำหรับรับความผันผวนในปี 60

การจัดพอร์ตลงทุนสำหรับรับความผันผวนในปี 60

การจัดพอร์ตลงทุนสำหรับความผันผวนในปี 60*

 

          เมื่ออัตราดอกเบี้ยสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตลาดกังวลต่อค่าเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่และความ ผันผวนของกระแสเงินทุน จีนกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ตลาดมีความกังวลและจำเป็นต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ในปีนี้ การอ่อนค่าของเงินหยวนจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อค่าเงินในเอเชีย รวมถึงค่าเงินบาท รวมทั้งประเด็นทางการเมืองก็จะยังคงมีความสำคัญ ในปีนี้จะมีการเลือกตั้งสำคัญในเยอรมนี ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ อาจสร้างความไม่แน่นอนต่อสถาบันการเมืองของยุโรปได้ ส่วนความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนก็มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น

 

          จากความไม่แน่นอนและความเสี่ยงต่างๆ ที่รออยู่ เชื่อว่ากลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนระยะยาว คือ การลงทุนในพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนและในขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดรับโอกาสในการเติบโตด้วย โดยนักลงทุนควรปรับสัดส่วนของเงินลงทุนให้มีระดับของความเสี่ยงสอดคล้องกับระดับความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละคน เชื่อว่าการลงทุนในตลาดหุ้นยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในระยะยาว แม้ว่าจะมีความผันผวนในระยะสั้นก็ตาม ภาวะตลาดในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงสามารถช่วยลดความผันผวนของการลงทุนได้เป็นอย่างดี

 

          สำหรับแนวทางการจัดพอร์ตการจัดสรรเงินลงทุนในปี 2560 ยังคงน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นโดยรวมไว้ที่ใกล้ Neutral หรือใกล้เคียงกับน้ำหนักที่เหมาะสมในระยะยาว แม้มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นในฐานะการลงทุนระยะยาว แต่การปรับตัวขึ้นของหุ้นในระยะหลังก็ทำให้ไม่อยากเสี่ยงเกินจำเป็น ยังมองว่าการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็น ตลาดที่ชอบที่สุด คือ ตลาดหุ้นสหรัฐที่น่าจะได้รับผลดีจากนโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการปรับลดภาษีเงินได้ภาคธุรกิจให้น้ำหนักลงทุนน้อยกว่าตลาดการลงทุนทั้งตลาดหุ้นยุโรปจากความเสี่ยงด้านการเมืองและตลาดหุ้นในเอเชียแปซิฟิกจากความเสี่ยงจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ

 

          สำหรับตลาดหุ้นไทยคาดว่าดัชนีน่าจะปรับขึ้นไปได้ถึง 1,680 ภายในสิ้นปี แต่ก็มีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย และการฟื้นตัวของกำไรของบริษัทจดทะเบียน ยังแนะนำให้ระมัดระวังการลงทุนเนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงในปี 2560 จึงแนะนำให้ปรับการลงทุนดังนี้
          (1) จากหุ้นปลอดภัยที่แพงไปเป็นหุ้นที่ไม่แพงนัก
          (2) จากหุ้นขนาดเล็กที่แพงไปเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ไม่แพง
          (3) จากหุ้นที่ได้รับแรงผลักดันจากสภาพคล่องมาเป็นหุ้นที่ผลกำไรมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง โดยให้น้ำหนักมากกว่าตลาด ในกลุ่มอาหาร กลุ่มพลังงาน กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น

 

          นอกจากนี้ยังแนะนำให้ระมัดระวังการลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยและความเสี่ยงด้านเครดิต จึงแนะนำให้ปรับลดการลงทุนในพันธบัตรไทยลงบางส่วน และปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีอายุของตราสารไม่ยาวมากนัก และยังคงน้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาดในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์/กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรพอสมควร แม้ว่าจะมีความเสี่ยงด้านราคาจากอัตราดอกเบี้ยที่อาจปรับสูงขึ้น สำหรับทองคำมองว่าควรมีทองคำในพอร์ตบ้าง เพื่อป้องกันความเสี่ยงแต่ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร และให้น้ำหนัก Neutral การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ยังแนะนำให้มีเงินสดพอสมควร เพื่อเตรียมรับความผันผวนที่รออยู่

 
_______________
* แหล่งที่มาของข้อมูล : CIO Kiatnakin Phatra Financial Group

 

 

กลุ่มข้อมูลและวางแผนสื่อสารองค์กร
ฝ่ายสื่อสารองค์กร

บทความการเงิน

วันที่ 23 มีนาคม 2560

1072 Views

BAM Mobile Application

ค้นหาทรัพย์ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส

บริการฝากขาย
อสังหาฯ
ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย