เกี่ยวกับเรา
BAM ประกอบธุรกิจด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยมีส่วนช่วยเหลือลูกหนี้และแก้ไขปัญหาสถาบันการเงิน เพิ่มเติม
ทรัพย์
อื่นๆ
ติดต่อเรา
0-2630-0700
0-2266-3377
99 ถนนสุรศักดิ์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
หน้าหลัก > บทความการเงิน > ความมหัศจรรย์ของ..."ราคาทองคำ"
ความมหัศจรรย์ของ..."ราคาทองคำ"*
สำหรับผู้ที่ชอบ เก็บสะสมทองคำควรที่จะทราบถึงประวัติของราคาทองคำ เพราะผู้ที่มีทองคำหรือผู้ที่ลงทุนในทองคำควรจะรู้เป็นอย่างยิ่ง ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ช่วงที่หนึ่ง ปี 2514-2523... ยุคกระทิงดุ
เริ่มจาก 15 สิงหาคม 2514 ประธานาธิบดีนิกสันประกาศยกเลิกการใช้ทองคำเป็นตัวค้ำประกันเงินดอลลาร์ สหรัฐอเมริกา โดยเริ่มต้นกำหนดที่อัตราแลกเปลี่ยน 35 ดอลลาร์ต่อหนึ่งทรอยออนซ์ของทองคำ
ปี 2516 เกิดการรวมตัวของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางหรือที่เรียกกันว่ากลุ่ม โอเปค ทำให้ราคาน้ำมันและทองคำพุ่งทะยานขึ้น ส่งผลให้วันที่ 14 พฤษภาคม 2516 ราคาทองคำพุ่งทะลุกว่า 100 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ปี 2522 เกิดการปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ในประเทศอิหร่าน ทำให้เกิดกระแสความหวาดกลัวกลุ่มหัวรุนแรงในตะวันออกกลาง เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้วันที่ 27 ธันวาคม 2522 ราคาทองคำพุ่งขึ้นทะลุ 500 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ วันที่ 24 ธันวาคม 2522 สหภาพโซเวียตประกาศบุกอัฟกานิสถาน ทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงไปทั่วโลก นักลงทุนจึงย้ายเงินไปลงทุนในทองคำอย่างมโหฬารอีกครั้งหนึ่ง จนถึงวันที่ 24 มกราคม 2523 ราคาทองคำก็พุ่งขึ้นกว่า 870 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
อาจกล่าวได้ว่าช่วง 10 ปีนี้เป็นยุคทองของราคาทองคำ เพราะราคาทองคำเพิ่มขึ้นจาก 35 ดอลลาร์ ไปถึง 870 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2,485 เปอร์เซ็นต์ อธิบายง่ายๆ ว่าถ้าผู้ซื้อทองคำไว้ในปี 2514 เป็นเงิน 1 ล้านบาท เก็บไว้ 10 ปีแล้วค่อยขายออก ก็จะได้เงินเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 25 ล้านบาท
ช่วงที่สอง ช่วงปี 2524-2543.. ยุคมืดของราคาทองคำ
ปี 2524-2525 เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและค่าเงินดอลลาร์มีเสถียรภาพ ประกอบกับการพบแหล่งทองคำใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นในทวีปอเมริกาเหนือหรือออสเตรเลีย ราคาทองคำจึงเริ่มตกลงมาเรื่อยๆ จนถึงประมาณ 300 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ปี 2529 สหประชาชาติได้ทำการแซงชั่นประเทศแอฟริกาใต้จากปัญหาการออกกฎหมายแบ่งแยกและ กีดกัน ชนชั้นจากสีผิว นักลงทุนส่วนใหญ่จึงคาดกันว่าแอฟริกาใต้จะแก้แค้นกลับ โดยการงดการส่งออกทองคำ ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นมาบ้าง
ปี 2539-2542 ไอเอ็มเอฟต้องการใช้เงินจำนวนมากเพื่อไปแก้ปัญหาหนี้สินของกลุ่มประเทศกำลัง พัฒนา จึงเทขายทองคำ 5 ล้านทรอยออนซ์ออกมา ธนาคารกลางของหลายประเทศก็ทำตามไอเอ็มเอฟ โดยสวิตเซอร์แลนด์ขาย 1,400 ตัน อังกฤษขาย 400 ตัน เป็นต้น ทำให้ราคาทองคำตกต่ำแบบสุดๆ โดยในวันที่ 20 สิงหาคม 2542 ราคาทองคำอยู่ที่ 252.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี
ตรงกันข้ามเป็นอย่างมากในรอบ 20 ปีนี้ จากราคาทองคำในเดือนมกราคม 2524 จาก 677 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ พอมาถึงเดือนธันวาคม 2543 ราคาเหลือเพียง 283 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือตกลงเกือบ 60
เปอร์เซ็นต์ เช่นกันถ้าซื้อทองคำไว้ 1 ล้านบาท ในปี 2524 และขายในปี 2543 ก็จะได้เงินกลับคืนมาแค่สี่แสนกว่าบาทเท่านั้น ซึ่งเสียเวลาไป 20 ปี แต่ขาดทุนไปกว่าครึ่งหนึ่ง
ช่วงที่สาม ช่วงปี 2544-2555.. เมื่อกระทิงกลับมาอีกครั้ง
เริ่มต้นในปี 2544 เศรษฐกิจของยักษ์ใหญ่ 2 ประเทศ คือ จีนและอินเดียมีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เครื่องประดับต่างๆ ที่ต้องใช้ทองคำขายดี ส่งผลให้ทองคำจำนวนหนึ่งถูกเก็บออกไปจากตลาดในรูปของเครื่องประดับ การบริโภคทองคำในลักษณะนี้ยังดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นทุกปี
ปี 2544 เกิดเหตุการณ์ 9/11 ในสหรัฐอเมริกา ก็ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นภายในวันเดียวถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2547 มีการก่อตั้งกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในทองคำโดยเฉพาะ ปัจจุบันคาดกันว่า SPDR น่าจะมีทองคำอยู่ในมือสูงมากจนติดอันดับต้นๆ ของผู้ถือครองทองคำมากที่สุดในโลก
ธันวาคม 2548 เกิดเฮอร์ริเคนแคทริน่าเข้าถล่มเมืองนิวออร์ลีนส์ ทำให้ราคาทองคำพุ่งไปถึง 536.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ต่อมาเดือนกันยายน 2551 เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐอเมริกา ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นถึง 872 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หลังเหตุการณ์นั้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาก็ย่ำแย่มาโดยตลอด ส่งผลให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในการถือครองพันธบัตรสหรัฐอเมริกา จึงทำให้บรรดาธนาคารกลางในหลายประเทศเริ่มทยอยเก็บทองคำแทนพันธบัตรสหรัฐ อเมริกา จนถึงช่วงต้นปี 2555 ราคาทองคำก็วิ่งจนไปอยู่ที่ระดับ 1,600-1,800 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ในช่วงที่ 3 นี้ราคาทองคำจากประมาณ 300 ดอลลาร์ ขึ้นไปถึงประมาณ 1,800 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 6 เท่าตัว ดังนั้นคำว่า “ทอง” จึงเป็นสิ่งที่น่าพิสมัยของคนทุกเพศทุกวัย
สรุปง่ายๆ ภายในระยะเวลาระหว่างปี 2514-2555 ประมาณ 40 ปี ราคาทองคำพุ่งขึ้นมาประมาณ 50 เท่า แม้ว่าทุกวันนี้ราคาทองคำจะดูเหมือนว่าจะลดลง แต่ก็เชื่อมั่นว่าราคาทองคำจะกลับมา และมันก็จะแสดงให้เห็นว่าการลงทุนซื้อทองคำเก็บไว้ดีกว่าการฝากเงินไว้ใน สถาบันการเงินอย่างแน่นอน