หน้าหลัก > บทความการเงิน > วิเคราะห์จังหวะการลงทุนหุ้นปันผลในปี 66*

วิเคราะห์จังหวะการลงทุนหุ้นปันผลในปี 66*

       จากสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกที่อยู่ในภาวะถดถอย อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกอยู่ในระดับสูงส่งผลให้อำนาจซื้อในมือผู้คนลดลง โดยดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนสูงสุดของแบงก์พาณิชย์ในประเทศไทยอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ คือ อยู่ในช่วง 0.20 - 1.90% จากการพิจารณาผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2561–2565 ของบริษัทจดทะเบียนไทย พบว่าทุกปีที่ทำการศึกษา ผลตอบแทนจากเงินปันผลของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน โดยสูงกว่าประมาณ 1.3 เท่าของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนที่สูงที่สุดของแบงก์พาณิชย์ในประเทศไทย และสิ้นปี 2565 บริษัทจดทะเบียนไทยในบางอุตสาหกรรมให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่า 5 เท่าของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน แสดงให้เห็นว่าการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยในช่วงเดือนมีนาคม– พฤษภาคมของทุกปี จะเป็นเทศกาลจ่ายเงินปันผลที่บริษัทจดทะเบียนทุกบริษัทจะมีการพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น (อ้างอิงผลประกอบการของปีก่อนหน้าหรืองวดของผลประกอบการตามนโยบายการจ่ายเงินปันผล) จึงเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อหุ้นปันผล

       จากการศึกษากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2555–2564) พบว่ากำไรสุทธิรวมทั้งหมดของบริษัทจดทะเบียนไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และถึงแม้ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 จะได้รับผลกระทบบ้าง แต่บริษัทจดทะเบียนไทยก็สามารถปรับตัวตอบรับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2564 เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 1,051,644 ล้านบาท ทำสถิติใหม่สูงสุดนับตั้งแต่เปิดตลาดและกลับมาสูงกว่ากำไรสุทธิรวมก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยกำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 2565 อยู่ที่ระดับ 811,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เช่นเดียวกันในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2556 – 2565) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจ่ายเงินปันผลให้นักลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามการเติบโตของกำไรสุทธิรวม โดยมีมูลค่าเงินปันผลที่จ่ายประมาณ 5.12 ล้านล้านบาท และในปี 2565 มีการจ่ายเงินปันผลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีมูลค่าเงินปันผลจ่ายสูงถึง 645,622 ล้านบาท

       ในปี 2565 มีการจ่ายเงินปันผลรวมให้นักลงทุนทั้งหมด 846 ครั้ง จากบริษัทจดทะเบียน 564 บริษัท (บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จ่ายเงินปันผลปีละครั้ง บางบริษัทจ่ายปีละ 2 ครั้งหรือ 4 ครั้ง ขึ้นอยู่กับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของแต่ละบริษัท) โดยในเดือนมีนาคม–พฤษภาคมปี 2565 มีการจ่ายเงินปันผลรวมทั้งหมด 530 ครั้ง (คิดเป็น 62.6% ของจำนวนการจ่ายเงินปันผลทั้งหมดในปีที่ผ่านมา) ซึ่งเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมาจ่ายเงินปันผลมากที่สุด 441 ครั้ง และในแต่ละปีก็จะมีเทศกาลจ่ายเงินปันผลอีกหนึ่งรอบในช่วงเดือนกันยายน โดยเดือนกันยายนปีที่ผ่านมาจ่ายเงินปันผลรวมทั้งหมด 180 ครั้ง

       โดยปี 2565 พบว่า 3 หมวดธุรกิจที่มีการจ่ายเงินปันผลมูลค่าสูงสุด คือ พลังงานและสาธารณูปโภค ธนาคาร และไอซีที และหากมองไปข้างหน้าอาจสรุปได้ว่าบริษัทจดทะเบียนไทยจะมีการจ่ายเงินปันผลตามกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น และคาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีการจ่ายเงินปันผลในช่วงเวลาเดิมของทุกปี (เดือนมีนาคม– พฤษภาคม) ดังนั้นในช่วงเวลาก่อนประกาศจ่ายเงินปันผล จึงเป็นเวลาสำคัญที่นักลงทุนจะคัดเลือกหุ้นปันผลและเลือกจังหวะเวลาในเวลาในการซื้อหุ้นปันผลเข้าพอร์ตลงทุน เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลตามเป้าหมายที่วางไว้

บทความการเงิน

วันที่ 23 มีนาคม 2566

1561 Views

BAM Mobile Application

ค้นหาทรัพย์ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส

บริการฝากขาย
อสังหาฯ
ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย