หน้าหลัก > บทความการเงิน > วิเคราะห์ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินเท่าไรดี?

วิเคราะห์ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินเท่าไรดี?

วิเคราะห์ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินเท่าไรดี?*

         
          เงินสำรองฉุกเฉิน คือ เงินที่ทุกคนควรมีสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉิน เงินก้อนนี้ควรเก็บไว้ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง พร้อมเบิกถอนได้ตลอดเวลา เช่น เงินฝากออมทรัพย์ไม่ประจำ เงินฝากไม่ประจำดอกเบี้ยสูง กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอยู่เสมอ  ดังนั้นควรมีเงินสำรองฉุกเฉินเท่าไหร่ดี ?   

          เงินสำรองฉุกเฉินควรจะมีไว้ในปริมาณที่เหมาะสม หากมีน้อยไปอาจจะไม่สามารถใช้จ่ายได้อย่างเพียงพอในช่วงคับขันได้ แต่หากมีมากไป เงินสภาพคล่องสูง ผลตอบแทนต่ำนี้ จะไปลดภาพรวมของผลตอบแทนการลงทุนได้ ยกตัวอย่าง ควรจะนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ มากกว่านี้ แต่พอมากองไว้ในเงินฉุกเฉินหมด ผลตอบแทนก็ลดลง ดังนั้นจึงควรมีเงินสำรองฉุกเฉินสำหรับใช้เพียงพอ 6 – 12 เดือน หากไม่มีรายได้กะทันหัน

          เงินสำรองฉุกเฉินมักจะเก็บไว้ในกรณีที่ขาดรายได้กะทันหัน เช่น ตกงาน (พนักงานประจำ) งานลดลงอย่างมาก (พนักงานไม่ประจำ) ธุรกิจขาดสภาพคล่อง (เจ้าของธุรกิจ) โดยเงินก้อนนี้ควรจะทำให้เรายังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างน้อย 6 – 12 เดือน ซึ่งคาดว่าในเวลาเท่านี้จะสามารถหางานใหม่ได้ ก่อนที่จะต้องเริ่มถอนเงินเก็บก้อนอื่นมาใช้ เงิน 6 – 12 เดือน อาจจะตีจากรายได้หรือรายจ่ายก็ได้ หากจะคิดแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน อาจจะเลือกใช้รายได้ปัจจุบันที่หาได้คูณ 6 – 12 เดือน ให้เป็นจำนวนเงินได้เลย แต่ถ้าอยากคิดให้ละเอียดมากขึ้น อาจจะคำนวณจากรายจ่ายที่คาดว่าจะต้องใช้โดยตรงที่มีเลยก็ได้ การคำนวณจากรายจ่ายจะได้ตัวเลขที่ชัดเจนกว่าและน่าเชื่อถือมากกว่า   
อย่างไรก็ตามอย่ามองภาพที่ตัวเราคนเดียว เนื่องจากหลายๆ ครั้งเงินของเราไม่ได้เลี้ยงดูแต่ตัวเราเองเท่านั้น หากเราเป็นเสาหลักของครอบครัว จำเป็นต้องส่งเงินให้คู่รัก ลูกหลาน หรือพ่อแม่ บุพการีด้วย อย่าลืมคำนวณค่าใช้จ่ายของคนอื่นลงไปในเงินสำรองฉุกเฉินเอาไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นหากเกิดปัญหาจริง อาจจะมีเงินไม่พอใช้ได้ ดังนั้นการที่จะเก็บกี่เดือนขึ้นกับความเสี่ยงของการตกงาน ตัวเลข 6 – 12 เดือน ถือว่าค่อนข้างกว้าง ซึ่งการที่จะเลือก 6 หรือเท่าไหร่ ไล่ไปจนถึง 12 ก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการตกงานที่เกิดขึ้น ถ้างานที่ทำมั่นคงแน่นอนมาก เช่น งานราชการ งานองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนมั่นคง อาจจะเลือกตัวเลข 6 หรือ 9 เดือน ก็สามารถทำได้ แต่หากงานที่ทำมั่นคงน้อย เช่น ฟรีแลนซ์ งานขายที่มีรายได้จากค่าคอมมิชชั่นเป็นหลัก อาจเลือกใช้ตัวเลข 12 เดือนแทน เพื่อให้เหมาะสมกับความเสี่ยงของตนเองได้   

         โดยสรุปสุดท้ายเงินสำรองฉุกเฉินเป็นเรื่องสำคัญมาก การไม่มีเงินเก็บพร้อมใช้เลยจะทำให้ตกอยู่ในภาวะลำบากเป็นอย่างมาก เมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน และแน่นอนว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
 


       


_______________
* แหล่งที่มาของข้อมูล : ลงทุนศาสตร์

 

กลุ่มข้อมูลและวางแผนสื่อสารองค์กร
ฝ่ายสื่อสารองค์กร

บทความการเงิน

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563

3739 Views

BAM Mobile Application

ค้นหาทรัพย์ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส

บริการฝากขาย
อสังหาฯ
ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย