BAM เปิดศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ ช่วยลูกค้า-ประชาชนแก้ไขปัญหาหนี้สิน

        BAM เปิด “ศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ BAM Remedy Center (BRC)” หวังขยายโอกาสให้ลูกค้า-ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการไกล่เกลี่ย การฟื้นฟู และช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินได้อย่างเท่าเทียมโดยไม่จำกัด มูลหนี้ เผยตลอดระยะเวลา 26 ปี BAM ให้โอกาสลูกหนี้กว่า 164,486 ราย รวมภาระหนี้ 508,790 ล้านบาท ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เปิดโอกาสให้ลูกหนี้เจรจาปรับโครงสร้างหนี้อย่างเป็นธรรม ด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรน 

        นางทองอุไร ลิ้มปิติ ประธานกรรมการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 26 ปีที่ผ่านมา BAM ได้ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างหลักของระบบการเงินไทย ในบทบาท “แก้มลิง” ที่ช่วยรองรับและบริหารจัดการหนี้เสียให้สถาบันการเงินของประเทศ ด้วยการรับซื้อรับโอนหนี้อย่างมืออาชีพ ควบคู่กับการเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ทุกกลุ่มเจรจาปรับโครงสร้างหนี้อย่างเป็นธรรม เพื่อให้สามารถนำทรัพย์สินซึ่งเป็น ที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน หรือกิจการ กลับคืนไปด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรน 

        ทั้งนี้ การจัดตั้ง ศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ BAM Remedy Center ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของประเทศ ในฐานะศูนย์เยียวยาต้นแบบแห่งแรกที่ออกแบบให้ประชาชนที่เป็นหนี้เข้าถึงการให้คำปรึกษา การไกล่เกลี่ย การประเมินผลกระทบ และการเยียวยาอย่างรอบด้าน ภายใต้กระบวนการที่เป็นธรรม โปร่งใส และปราศจากอคติ สอดคล้องกับหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UNGPs) โดยเฉพาะด้านการเยียวยาที่ประชาชนสามารถตรวจสอบและเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิผล 

        ขณะเดียวกันศูนย์เยียวยาฯ แห่งนี้ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นพื้นที่กลางสำหรับการปรึกษาและไกล่เกลี่ยเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบการคุ้มครองประชาชน ในเชิงโครงสร้าง ช่วยยกระดับมาตรฐานการจัดการข้อพิพาททางการเงิน และเป็นโมเดลต้นแบบที่สามารถขยายผลสู่ภาคส่วนอื่นของประเทศในอนาคต ซึ่งระบบเยียวยาที่เข้มแข็งคือรากฐานของความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน 

        ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดดำเนินการมา 26 ปี BAM บริหารสินทรัพย์ NPL มูลค่า 827,706 ล้านบาท และดูแลลูกหนี้กว่า 224,204 ราย ทั่วประเทศ ขณะที่สามารถช่วยเหลือลูกหนี้แก้ไขปัญหาหนี้ได้จำนวน 5,000 รายต่อปี คิดเป็นมูลค่ารวม 287,730 ล้านบาท รวมทั้งยังช่วยให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ถึง 2,000 ยูนิตต่อปี คิดเป็นมูลค่ารวมมากถึง 14,259 ล้านบาท 

        ภายใต้ตัวเลขที่กล่าวมานี้ คือชีวิตของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งต้องเผชิญกับความยากลำบากทางการเงิน ความกังวล ภาระหนี้ที่กระทบต่อการดำเนินชีวิต และผู้คนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัย ซึ่งตลอดกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา BAM ได้ให้โอกาสลูกหนี้มากกว่า 164,486 ราย รวมภาระหนี้ 508,790 ล้านบาท ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้และมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ของ BAM เอง หรือผ่านศูนย์ไกล่เกลี่ยหนี้ภาคประชาชนของกระทรวงยุติธรรม 

        ทั้งนี้ การช่วยเหลือผู้คนให้ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ไม่เพียงสร้างประโยชน์ต่อครอบครัว แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวม ความร่วมมือของ BAM กับศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ ที่ผ่านมา ได้ช่วยลดความเดือดร้อนของประชาชนจำนวนมาก แต่เนื่องจากศูนย์ไกล่เกลี่ยฯ มีข้อจำกัดในการไกล่เกลี่ยหนี้ในวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ทำให้ยังมีประชาชนอีกไม่น้อยที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการได้ ดังนั้น BAM จึงได้จัดตั้งศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ เพื่อขยายโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการไกล่เกลี่ย การฟื้นฟู และกลไกช่วยเหลือด้านการแก้ไขปัญหาหนี้สินได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่ามูลหนี้จะเป็นเท่าใดก็ตาม 

        อย่างไรก็ดี การเปิดศูนย์เยียวยาของ BAM ในช่วงแรกจะเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ลูกค้า BAM จากนั้นจะขยายความช่วยเหลือไปยังประชาชนทั่วไปที่มีปัญหาหนี้สินสามารถเข้าถึงกระบวนการ การเยียวยาอย่างมีประสิทธิภาพ โดย BAM ได้วางกลไกให้มีช่องทางเพื่อให้ผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือผู้ได้รับผลกระทบเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง โดยไม่ปรากฏชื่อผู้ร้องเรียนแต่อย่างไร อาทิ BAM Voice สำหรับพนักงาน เจ้าหน้าที่ และ BAM Connect สำหรับลูกค้า คู่ค้า และประชาชนทั่วไป เป็นการแก้ไขตั้งแต่ต้นทาง และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายและความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น ผู้ได้รับผลกระทบสามารถเข้าถึงการเยียวยาโดยผ่านศูนย์เยียวยาสมานฉันท์ของ BAM หรือ BAM Remedy Center